URBAN LIVING

รวมเหตุผลที่คนไทยควรลงทุนกับ Green City

รวมเหตุผลที่คนไทยควรลงทุนกับ Green City

อัพเกรดคุณภาพชีวิตด้วยพื้นที่สีเขียว

Posted on: Dec 23, 2021

สุขภาพดีมีเงินก็หาซื้อไม่ได้...

คำพูดนี้อาจจะไม่จริงเสมอไปแล้ว เมื่อรัฐและองค์กรเอกชนในหลายประเทศยอมลงทุนวางแผน พัฒนาเมือง เพื่อเป็น ‘Green City’ กันมายาวนานและยังคงทำอยู่อย่างต่อเนื่อง สาเหตุเพราะมองเห็นประโยชน์ที่จะตามมา จากการเปลี่ยนเมืองให้มีความเขียวขึ้น ผู้คนใกล้ชิดธรรมชาติ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมตลอดการใช้ชีวิตมากขึ้น
เราขอให้ความหมายของ ‘Green City’ ง่ายๆว่าคือ เมืองที่ถูกออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นตึกอาคาร ระบบขนส่งมวลชน พลังงานที่ใช้ ประชากร และทุกๆองค์ประกอบในเมืองนั้นๆ ล้วนแต่มุ่งส่งเสริมและลด ปัญหาสิ่งแวดล้อม
การลงทุนเพื่อ ‘Green City’ ในท้ายที่สุดแล้วประโยชน์ต่างๆก็ย้อนกลับมาเพื่อให้ผู้เสียภาษี ให้คนที่อาศัยในเมืองมีสุขภาพ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นนั่นเอง องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดมาตรฐานสัดส่วนพื้นที่สีเขียวในเมืองเอาไว้ที่ 9 ตารางเมตรต่อคน ปัจจุบันแม้กรุงเทพมหานครจะยังคงอยู่ห่างค่ามาตรฐานนั้นมาก แต่ก็กำลังมุ่งเป็น Green Bangkok 2030 เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้คนกรุง 10 ตารางเมตรต่อคนในอีกเกือบสิบปีข้างหน้า
โดยเราขอสรุปเหตุผลต่างๆว่าทำไม เราจึงควรมุ่งพัฒนาสู่ ‘Green City’
1.) ป้องกันน้ำท่วม พื้นที่ธรรมชาติที่เป็นดิน ช่วยรองรับ ดูดซับน้ำฝนที่ตกลงมาและกักเก็บไว้ชั้นใต้ดิน ต่างจากพื้นคอนกรีต หรืออิฐที่ขวางกั้นการระบายของน้ำ จนอาจเป็นที่มาของคำว่า น้ำรอการระบาย ก็เป็นได้ เมืองในปัจจุบันมักถูกออกแบบมาเพื่อให้ระบายน้ำได้ดี แต่ ‘Green City’ จะมองข้ามไปถึงการจัดการน้ำ โดยกักเก็บน้ำจากธรรมชาติและหมุนเวียนไปใช้ในเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ Taipei, Taiwan ใช้พื้นที่สีเขียวในเมืองและพื้นถนนที่ช่วยดูดซับน้ำฝนเพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของปัญหาน้ำท่วม ตามแนวทาง ‘Sponge City’

 

2.) เพิ่มมูลค่าอสังหาริมทรัพย์
.
Green City มีแนวโน้มที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ให้สูงขึ้น ทั้งที่พักอาศัยรวมถึงพื้นที่สำนักงาน เพราะคนที่มีกำลังยอมจ่ายราคาที่สูงกว่า เพื่อให้ได้มาซึ่งอากาศที่บริสุทธิ์ สุขภาพที่ดีขึ้น วิวที่สวยงาม และคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า Green City ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่นักลงทุน เจ้าของกิจการยุคใหม่ให้ความสำคัญในการพิจารณาเข้ามาตั้งสำนักงานหรือสาขา เพราะสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีก็ย่อมทำให้พนักงานผลิตงานที่มีประสิทธิภาพและยังดึงดูดให้คนอยากมาร่วมงานกับองค์กรด้วย
.
New York, USA ‘The High Line’ โคงการปรับปรุงทางรถไฟฟ้าสายเก่ากลางเมืองกว่า 2 กิโลเมตรเป็นสวนสาธารณะลอยฟ้า หลังโครงการนี้เกิดขึ้นอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ติด ‘The High Line’ มีราคาเพิ่มสูงกว่าเดิมและพุ่งสูงกว่าที่พักอาศัยและสำนักงานบนถนนถัดไปกว่าเท่าตั

 

3.) สุขภาพดีทั้งกายและใจ

สีเขียวเป็นสีที่ช่วยผ่อนคลาย มองแล้วสบายตาและช่วยลดความเครียด ยิ่งสีเขียวที่มาจากการมองธรรมชาติ ต้นไม้ ใบหญ้าด้วยแล้วยิ่งช่วยให้คนที่อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติมีจิตใจที่ผ่อนคลาย และเมื่อสุขภาพจิตดีย่อมส่งผลต่อสุขภาพกายด้วย ที่ที่มีต้นไม้มาก ย่อมมีการผลิตอ็อกซิเจนทำให้อากาศบริสุทธิ์มากกว่าพื้นที่ที่มีต้นไม้น้อยหรือไม่มีพื้นที่สีเขียวเลย หลากหลายงานวิจัยต่างยืนยันว่าคนที่สัมผัส ทำกิจกรรมใกล้ชิดธรรมชาติ สมองจะหลั่งสาร Dopamine ทำให้มีสมาธิ กระฉับกระเฉง ลดความวิตกกังวล นำไปสู่ชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น

Barcelona, Spain โครงการ ‘Superblocks’ ซึ่งเป็นการรวม 9 บล็อกใกล้เคียงเข้าด้วยกัน ภายใน Superblock เป็นเขตปลอดยานพาหนะ อนุญาตแค่การเดินเท้าและจักรยาน จากโครงการดังกล่าวมีการศึกษาที่คาดว่าจะสามารถลดอัตราการเสียชีวิตของประชาชนก่อนวัยอันควรจากมลภาวะทางอากาศ, เสียง และความร้อนได้ถึง 667 รายต่อปี

 

4.) อากาศเย็นกว่าเมืองที่ไม่มีพื้นที่สีเขียว

อุณหูมิโลกที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปีเนื่องจากสภาวะโลกร้อน แต่บริเวณพื้นที่เขียว ในสวนสาธารณะขนาดใหญ่หรือตามชานเมืองจะมีอุณหภูมิต่ำกว่าในเมืองที่แออัดไปด้วยตึก อาคารและสิ่งก่อสร้าง ทั้งพื้นถนนคอนกรีต ผนังตึกอาคารในเมือง จะดูดซับความร้อนจากแสงอาทิตย์ในตอนกลางวันไว้ และค่อยๆคายความร้อนตอนกลางคืน เราจึงเห็นว่าในต่างจังหวัดหรือบริเวณที่มีพื้นที่สีเขียวหนาแน่นมักมีอุณหภูมิต่ำกว่าในเมืองอย่างเห็นได้ชัด

Paris, France มีแผนให้โรงเรียน 800 แห่งในเมืองเปลี่ยนพื้นคอนกรีตเป็นพื้นหญ้าและเพิ่มพื้นที่สีเขียวในโรงเรียนภายในปี 2040 เพื่อลดอุณหภูมิที่ร้อนจัดโดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน

5.) เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ

การออกแบบเมืองส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตที่จะมาอาศัยอยู่ เมืองที่มีแต่ตึก อาคาร เราก็มักจะพบเห็นแค่ นกพิราบหรือกระรอกวิ่งตามสายไฟ แต่ Green City สามารถดึงดูดให้สิ่งมีชีวิตอื่นๆมาอาศัยอยู่ร่วมกันได้ ทั้งผีเสื้อ ผึ้งป่า และแมลงที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์ จนเกิดเป็นระบบนิเวศน์ที่อยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ

Vienna, Austria บริษัท Wiener Linien ต้องการเพิ่มจำนวนของพืชป่าและแมลงที่ผสมเกสร โดยพัฒนาพื้นที่สีเขียวตามแนวเส้นทางรถรางและรถใต้ดินในเมืองเวียนนาให้กลายเป็นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์
นักวิจัยพบตั๊กแตนกว่า 25 สายพันธุ์ ผีเสื้อ 40 สายพันธุ์ ผึ้งป่า 155 สายพันธุ์ รวมถึง 7 สายพันธุ์ของผีเสื้อที่ใกล้สูญพันธุ์บริเวณพื้นที่สีเขียวตามแนวรถรางนี้

6.) เสริมสร้างความสัมพันธ์ของคนในชุมชน

พื้นที่สีเขียวในเมืองทำให้คนได้ออกมาใช้ชีวิต ออกมาทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น รวมกลุ่มออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งแค่นั่งพักผ่อนพูดคุย ซึ่งการที่คนในสังคมมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมีแนวโน้มที่อัตราการเกิดอาชญากรรมในพื้นที่นั้นๆจะน้อยกว่าชุมชนมี่คนไม่มีกฏิสัมพันธ์ต่อกันเลย

Paris, France ‘Promenade Plantee’ และ ‘Viaduc des Arts’ สวนสาธารณะลอยฟ้าจากการปรับปรุงทางรถไฟเก่าและด้านล่างสวนเป็นพื้นที่สำหรับแกลอรี่แสดงงานศิลปะ ร้านอาหาร ย่านศิลปะของช่างฝีมือหลายสาขา

7.) เสริมสร้างความสัมพันธ์ของคนในชุมชน

พื้นที่สีเขียวในเมืองทำให้คนได้ออกมาใช้ชีวิต ออกมาทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น รวมกลุ่มออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งแค่นั่งพักผ่อนพูดคุย ซึ่งการที่คนในสังคมมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมีแนวโน้มที่อัตราการเกิดอาชญากรรมในพื้นที่นั้นๆจะน้อยกว่าชุมชนมี่คนไม่มีกฏิสัมพันธ์ต่อกันเลย

Paris, France ‘Promenade Plantee’ และ ‘Viaduc des Arts’ สวนสาธารณะลอยฟ้าจากการปรับปรุงทางรถไฟเก่าและด้านล่างสวนเป็นพื้นที่สำหรับแกลอรี่แสดงงานศิลปะ ร้านอาหาร ย่านศิลปะของช่างฝีมือหลายสาขา

 

Share :