
URBAN LIVING
8 โครงการป่าบนตึกรอบโลก
8 โครงการป่าบนตึกรอบโลก
อยู่ในเมืองคอนกรีตก็ใกล้ชิดธรรมชาติได้
Posted on: Oct 01, 2021
ชีวิตที่ต้องอยู่อาศัย ทำงานในเมือง
เราจะพาไปชมสถาปัตยกรรมรอบโลกที่ปลูกป่าเอาไว้บนตึกคอนกรีตหรือสิ่งก่อสร้าง ซึ่งเป็นอีกแนวทางการ ออกแบบที่ได้รับความนิยมและทำให้คนใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น ช่วยสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ เพิ่มออกซิเจนและทำให้สุขภาพจิตดีขึ้นท่ามกลางเมืองที่แออัดไปด้วยตึกคอนกรีต อย่างน้อยสิ่งก่อสร้างที่เราจะพาไปชมเหล่านี้ ก็ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับคนเมืองได้บ้าง


1) Floating Village in the Middle of a Forest
Paris, France
‘จากลานจอดรถสู่สวนป่าย่านชานเมืองปารีส’
สิ่งก่อสร้างที่เรียกว่า ‘Floating Village in the Middle of a Forest’ ถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้นับพันต้น โดยมีบ้าน อพาร์ทเม้นต์อยู่ด้านบน สะพานลอยคนเดินอยู่ด้านบน และพื้นที่ใช้สอยอื่นๆ เช่น ออฟฟิส ร้านอาหารอยู่ในโครงการแห่งนี้ที่สามารถมองเห็นวิวหอไอเฟล
พื้นที่พักอาศัยในโครงการรายล้อมไปด้วยธรรมชาติแม้จะอยู่ติดใจกลางกรุงปารีสที่มีแต่ตึกหนาแน่น ต้นไม้ที่จำนวนมากในโครงการจะช่วยกรองมลพิษทางอากาศ ลดอุณหภูมิ และช่วยเพิ่มความสุขให้แก่ผู้พัก อาศัยหรือผู้อยู่ใกล้เคียง โดยตึกนี้ใช้ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์,พลังงานลม,พลังงานความร้อนใต้พิภพ และมีการ ใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น ถ้าส่วนร้านอาหารสร้างพลังงานเกินความต้องการก็จะสามารถหมุนเวียนนำไปใช่ใน ส่วนของสำนักงานและบ้านที่อยู่ด้านบนแทน นอกจากจะดีต่อคนแล้วยังดีต่อโลกอีกด้วย


2) Urban Forest
Brisbane, Australia
‘หนึ่งในสวนป่าแนวตั้งที่หนาแน่นที่สุดในโลก’
สวนแนวตั้งบนตึก 30 ชั้น แห่งนี้ประกอบด้วยต้นไม้นับ 20,000 ต้นที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ คัดเลือกจากกว่า 259 สายพันธุ์พื้นเมือง
ในโครงการนี้ประกอบด้วยที่พักอาศัย, สวนบนดาดฟ้า 2 ชั้น และ สวนสาธารณะบนชั้นพื้นดิน ซึ่งเป็นโครงการที่สร้างมาตรฐานให้แก่ตึกที่พักอาศัยที่ต้องการสร้างความยั่งยืนในตัวเอง โดยมีการติดตั้งแผงโซล่าร์เพื่อสร้างพลังงานหมุนเวียน บริเวณสวนบนตึกก็ใช้น้ำจากฝนและน้ำเสียที่เกิดจากการใช้งานทั่วไปและไม่มีการปนเปื้อน (grey water) เช่น น้ำจากการอาบน้ำ, ล้างมือ, ซักผ้า เป็นต้น
นอกจากความยั่งยืนภายในตึกเองแล้ว ยังคืนประโยชน์ให้กับสังคมด้วยสวนบริเวณชั้น G เป็นสวนเปิดและยัง ให้นักเรียน นักศึกษา คนทั่วไปมาเยี่ยมชมวิธีการ แนวทางความยั่งยืนของตึกแห่งนี้อีกด้วย


3) Tao Zhu Yin Yuan
Taipei, Taiwan
‘ตึกที่อยู่ที่ช่วยโลกลดก๊าซคาร์บอน’
อาคารที่พักอาศัยที่ช่วยเพิ่มออกซิเจน ความชื้นในอากาศและลดมลพิษทางเสียงจากสิ่งแวดล้อมรอบด้าน แถม ยังได้รับวิวพาโนรามา 270 องศา ที่มองเห็นตึกไทเป101 อย่างใกล้ชิด
ต้นไม้กว่า 23,000 ต้นที่ปลูกบริเวณเปิดโล่งของตึก ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ที่มีอัตราการดูดซับคาร์บอนสูงทั้งบริเวณสวนชั้นล่างและระเบียงของแต่ละห้องพักอาศัย ซึ่งพื้นที่สีเขียวทั้งหมดของโครงการคิดเป็น 246% มากกว่าที่กฎหมายกำหนดถึง 5 เท่า และคาดว่าจะสามารถดูดซับคาร์บอนได้ถึง 130 ตัน/ปี
โครงการนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากลักษณะเกลียวคู่ DNA โดยมุ่งออกแบบมาเพื่อช่วยดูดซับคาร์บอน นำไป สู่การลดอุณหภูมิของโลกที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นอยู่ทุกขณะ ด้วยต้นไม้และระบบหมุนเวียนพลังงานที่ยั่งยืนเพื่อสร้าง ประโยชน์ไม่ใช่แก่เพื่อผู้พักอาศัย แต่ยังรวมถึงสังคมรอบๆ และส่งเสริมการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับ ธรรมชาติบนโลกใบนี้


4) The Forest
Maharashtra, India
‘โรงเรียนสีเขียวที่มีเลนจักรยานลอยฟ้า’
The Forest โครงการที่มุ่งสร้างความสัมพันธ์ของธรรมชาติเข้าไว้กับการศึกษา โดยสร้างตึกเรียนที่เขียวขจีไป ด้วยสวนต้นไม้แนวตั้ง โดยโรงเรียนนี้ตั้งอยู่ในรัฐมหาราษฏระ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศอินเดีย และมีค่ามลพิษทางอากาศสูงกว่าที่ WHO กำหนด
โครงสร้างของ The Forest ถูกออกแบบเป็นรูปทรงกระบอก 2 แท่งที่เชื่อมกันด้วยเลนจักรยานทรง infinity บน ดาดฟ้า และมีระเบียงเปิดที่เต็มไปด้วยพืชพรรณต่างๆที่ช่วยผลิตอากาศบริสุทธิ์อันนำไปสู่สุขภาพที่ดีของ นักเรียน โดยช่องตรงกลางของทั้งสองอาคารช่วยให้แสงส่องถึงและทำให้อากาศถ่ายเทได้ดีบริเวณระเบียง ห้องเรียน
พื้นที่ตั้งของโครงการที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีตึกเรียนอยู่ทางด้านหน้าของผืนที่ดิน ส่วนด้านหลังเป็นพื้นที่เปิด สำหรับทำกิจกรรมละกีฬาต่างๆ รวมถึง The Forest ยังเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมสำหรับเด็กวัยเรียนขึ้นไปอีกด้วย


5) EDEN Tower
Ardmore-Draycott, Singapore
‘ตึกที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับ Luxury Residence ในสิงคโปร์’
EDEN อาคารที่พักอาศัยที่หรูหราใจกลางสิงคโปร์ ได้รับการออกแบบให้มีสวนระเบียงที่มีพื้นที่กว้างขวางตรง กลางตัวตึก ยาวตั้งแต่ชั้นล่างจนถึงชั้นบนสุด กว่า 104.5 เมตร สนองต่อวิสัยทัศน์ของอดีตนายกรัฐมนตรี ลี กวนยูที่มีต่อประเทศสิงคโปร์ว่าเป็น “City in a Garden”
สวนแนวตั้งบนอาคารนี้ถือเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างตึกคอนกรีตที่พักอาศัยแห่งนี้และความเขียวขจีของพื้นที่ประ ประเทศสิงคโปร์ให้มีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กัน โดยที่ผู้พักอาศัยจะพบกับสวนที่เขียวชอุ่มไปด้วยพืชพรรณ มากมายทันทีที่เปิดประตูห้องออกมา และแน่นอนว่าห้องพักอาศัยสุดหรูบนตึกที่โดดเด่นอยู่ใจกลางสิงคโปร์ แห่งนี้ถูกจับจองหมดแล้ว


6) Farming Kindergarden
Dongnai, Vietnam
‘โรงเรียนอนุบาลกับสวนผักบนดาดฟ้า’
พื้นที่จำนวนมากของประเทศที่กำลังถูกเปลี่ยนจากพื้นที่เกษตรไปสู่โรงงานต่างๆ ทำให้เด็กๆมีประสบการณ์ที่ใกล้ชิดธรรมชาติน้อยลงไปด้วย โครงการโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้จึงถูกออกแบบมา เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
การออกแบบตึกเป็นทรงคล้ายเงื่อนไขว้กัน เกิดช่องตรงกลางที่รับแสงธรรมชาติและการถ่ายเทอากาศที่ดี ทำให้ ไม่ต้องติดตั้งแอร์ในห้องเรียนนักเรียนกว่า 500 คนจะมีสนามเด็กเล่น 3 สนาม พื้นที่บนหลังคาก็ถูกคลุมด้วย หญ้าเพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่สวน และยังมีสวนผักด้านบนอาคาร ซึ่งผู้ออกแบบยังตั้งใจให้โรงเรียนแห่งนี้เป็นต้น แบบของโรงเรียนแบบยั่งยืน ที่เด็กๆสามารถเรียนรู้การปลูกผักด้วยตนเองและใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น


7) ACROS Fukuoka Prefectural International Hall
Fukuoka, Japan
‘อาคารที่สร้างให้กลมกลืนกับธรรมชาติที่ญี่ปุ่นมีมาตั้งแต่ปี 1995’
โครงการ ACROS บนพื้นที่กว่า 1 ล้านตารางฟุต หลักๆประกอบไปด้วย Fukuoka Symphony Hall, International Conference Hall, Cultural Information Center, Takumi Gallery ห้องประชุมและพื้นที่ใช้สอ ยอื่นๆอีกมากมาย โดยมุ่งเป็นศูนย์การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในเอเชีย
อาคาร 14 ชั้นที่ด้านนอกเป็นสวนขั้นบันได หรือที่รู้จักกันว่า “ACROS Mountain” มีพื้นที่สวนกว่า 5,400 ตารางเมตร ต้นไม้กว่า 37,000 ต้นจาก 76 สายพันธุ์ (ปัจจุบันน่าจะมีมากกว่า 50,000 ต้น) เป็นการแก้ปัญหา สำหรับการใช้พื้นที่ให้คุ้มค่าเกิดรายได้สูงสุดไปพร้อมกับทำประโยชน์ให้แก่คนเมือง ด้วยสวนที่เปิดสำหรับ ประชาชนทั่วไป
เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้เป็นที่สีเขียวแห่งสุดท้ายของใจกลางเมืองฟุกุโอกะ ผู้ออกแบบได้ประสบความสำเร็จในการ ผสมผสานโครงการที่สร้างรายได้ โดยไม่ทำลายพื้นที่สีเขียวของประชาชน รวมถึงยังได้เพิ่มสถาปัตยกรรมที่ โดดเด่นให้กับเมืองฟุกุโอกะอีกด้วย


8) Thammasat Urban Farm Rooftop
Bangkok, Thailand
‘อุทยานเรียนรู้ป๋วย 100 ปี ชนะเลิศรางวัลด้านสถาปัตยกรรมระดับโลก’
พื้นที่สาธารณะภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ที่ด้านบนเป็น urban farm ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียด้วย พื้นที่กว่า 22,000 ตารางเมตร โดยมีคอนเซปต์จาก นาขั้นบันไดใช้เพาะปลูกผักออร์แกนิกที่นำไปใช้ในโรง อาหาร
อุทยานแห่งนี้มุ่งเน้นความยั่งยืนไม่ว่าจะใช้น้ำจากคลองใกล้เคียงและน้ำฝนที่ถูกกักเก็บไว้ในสระน้ำรอบอาคาร มารดต้นไม้ในสวน และอาคารรูปตัว H ที่เปิดโล่งรับแสงธรรมชาติเพื่อลดการใช้ไฟฟ้า แล้วยังสื่อถึงคำว่า Humanity ที่หมายถึงความเท่าเทียมกันของคนทุกคนเพราะอุทยานนี้เปิดใ้ห้ประชาชนทั่วไปเข้าได้ ไม่จำกัดแค่ นักศึกษาในมหาวิทยาลัยเท่านั้น
โดยในปี 2020 อุทยานแห่งนี้ชนะเลิศรางวัล Jury Winners และ Popular Choice Winners ในสาขาภูมิทัศน์ และการออกแบบพื้นที่สาธารณะ และ The Project of The Year 2020 จากเวที Architizer A+ Awards 2020
Share :
Related Posts

เอปสัน ประเทศไทย ฉลองครบรอบ 33 ปี จัดกิจกรรมยับยั้งไฟป่า
พร้อมถวายต้นไม้ 333 ต้นให้แก่วัด